• logo
  • หน้าแรก
  • เกี่ยวกับเรา
  • บทความ
      News
      Art & Design
      Business
      Wellness
      Culture
      Insights
      Research
      Go Green
      Leisure
  • วิดีโอ
      Education
  • Podcast
      Wealth
      Environment
      Psychology
      Tecnology
logo
  • หน้าแรก
  • เกี่ยวกับเรา
  • บทความ
    • News
    • Art & Design
    • Business
    • Wellness
    • Culture
    • Insights
    • Research
    • Go Green
    • Leisure
  • วิดีโอ
    • Education
  • Podcast
    • Wealth
    • Environment
    • Psychology
    • Tecnology
5 พายุไต้ฝุ่น อำนาจทำลายล้างสูง กระทบไทยในช่วงปี 2020-2025
News
20
วันเผยแพร่: Jul 24,2025
อัปเดตล่าสุด: Jul 25,2025
5 พายุไต้ฝุ่น อำนาจทำลายล้างสูง กระทบไทยในช่วงปี 2020-2025

ธรรมชาติสร้างสรรค์ทุกสิ่ง แต่ในขณะเดียวกันก็มีอำนาจทำลายล้างมหาศาลเกินกำลังมนุษย์จะต้านทานได้ โดยเฉพาะในช่วงนี้ที่มีพายุวิภาแวะเข้ามาทักทาย สร้างความเสียหายทั้งบ้านเรือน ทรัพย์สิน ฯลฯ อย่างมิอาจประเมินค่าได้ สำนักข่าวอ่างแก้วชวนไปรู้จักกับบรรดาพายุ ที่นับว่ามีพลังรุนแรงและกระทบไทย ตั้งแต่ปี 2020-2025

 

1.พายุไต้ฝุ่นวิภา (Wipha) เกิดขึ้นเมื่อเดือนกรกฎาคม 2025

“วิภา” พายุลูกล่าสุดที่มีความหมายว่า “หญิงสาว” แต่หาได้มีความอ่อนโยนตามชื่อแม้แต่น้อย หลังเคลื่อนตัวมาจากชายฝั่งเมืองเจียงเหมิน มณฑลกวางตุ้ง ประเทศจีน ก่อนจะเคลื่อนตัวทางตะวันตก เข้าสู่อ่าวตังเกี๋ย และขึ้นฝั่งบริเวณประเทศเวียดนาม จนมาถึงประเทศไทยเมื่อวันที่ 22 ก.ค. 2025 ที่ผ่านมา โดยมีศูนย์กลางอยู่ที่ จ.น่าน ความรุนแรงของพายุส่งผลให้ จ.น่าน เกิดน้ำท่วมสูงอย่างรวดเร็วและรุนแรงในรอบ 100 ปี

 

โดยเมื่อวันที่ 24 ก.ค. 2025 แม่น้ำน่านมีระดับน้ำเกินจุดวิกฤติทุกสถานี โดยเฉพาะจุดวัดระดับน้ำ N1 ในเขต อ.เมืองน่าน พบว่าระดับน้ำสูงเกินพนังกั้นน้ำกว่า 9 เมตร ทำให้มวลน้ำไหลทะลักข้ามพนังเข้าท่วมพื้นที่เขตเศรษฐกิจใจกลางเมือง ไม่ว่าจะเป็นโรงพยาบาลน่าน วัดภูมินทร์ ฯลฯ รวมไปถึงพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบทั้งหมด 7 อำเภอ ได้แก่ อ. เมืองน่าน ปัว ท่าวังผา เวียงสา ภูเพียง เชียงกลาง และเฉลิมพระเกียรติ ส่วนพื้นที่อื่นๆ ที่ได้รับผลกระทบแบบห่าง ๆ จากพายุวิภาอยู่ในโซนภาคเหนือและอีสานตอนบน เช่น จ.แพร่ เชียงราย พะเยา ลำปาง เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน อุตรดิตถ์ จันทบุรี และตราด

เครดิตภาพ : เพจเล่าขวัญเมืองน่าน

เครดิตภาพ : เพจเล่าขวัญเมืองน่าน

เครดิตภาพ : เพจเล่าขวัญเมืองน่าน

 

2. ซูเปอร์ไต้ฝุ่นยางิ (Yagi) เกิดขึ้นเมื่อเดือนกันยายน 2024

อิทธิพลของซุเปอร์ไต้ฝุ่นยางิ (ซูเปอร์ไต้ฝุ่น Super Typhoon เป็นพายุที่ถือว่ารุนแรงที่สุดในบรรดาพายุทั้งหมด โดยความรุนแรงของลมจะสูงทะลุ 180 กม./ชม. ขึ้นไป) ทำให้ฟิลิปปินส์ จีน และเวียดนามเกิดมีลมกระโชกแรงและน้ำท่วมหนัก ส่วน สปป.ลาว ไทย และเมียนมาร์ เหลือเพียงพายุปลายทาง แต่ก็ส่งผลให้เกิดฝนตกหนัก และน้ำท่วมฉับพลัน โดยเฉพาะที่ภาคเหนือและภาคอีสานตอนบน

ซูเปอร์ไต้ฝุ่นยางิ ถือเป็นพายุที่รุนแรงที่สุดของเอเชียและรุนแรงเป็นอันดับ 2 ของโลกเมื่อปี 2024 (รองจากพายุเฮอร์ริเคนแบรีลในแอตแลนติก) ด้วยความเร็วลมสูงสุด 234 กม./ชม. ทั้งนี้พายุยางิ ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตประมาณ 800 คน และสร้างความเสียหาย

 

3. ไต้ฝุ่นชานชาน (Shan Shan) เกิดขึ้นเมื่อเดือนสิงหาคม 2024

พายุไต้ฝุ่นชานชาน ไม่ได้ส่งผลต่อไทยโดยตรง แต่เป็นพายุที่ชาวญี่ปุ่นต้องจดจำไปนานแสนนาน โดยเฉพาะบนเกาะคิวชู ซึ่งอยู่ทางตอนใต้สุดของประเทศ ในเวลานั้น สำนักอุตุนิยมวิทยาของญี่ปุ่นได้ออกมาประกาศเตือนฉุกเฉินระดับสูง ด้วยความเร็วลมที่แรงประมาณ 252 กม./ชม. ส่งผลให้เกิดฝนตกหนักมากกว่า 1,100 มม.. เป็นเวลา 2 วัน เกิดน้ำท่วมและดินถล่ม มีไฟฟ้าดับกว่า 250,000 ครัวเรือน และมีผู้เสียชีวิตหลายราย

ในเวลานั้นเที่ยวบินหลายร้อยเที่ยวต้องถูกยเลิก บริการรถไฟชินคันเซนถูกระงับ ด้านบริษัทขนาดใหญ่ เช่น Toyota, Honda, Mazda และ Nissan จำเป็นต้องปิดโรงงานเพื่อความปลอดภัย ทางการญี่ปุ่นได้ออกมาเตือนถึง ‘สถานการณ์ที่เป็นภัยต่อชีวิต’ ที่อาจเกิดขึ้นในบางพื้นที่ของจังหวัดโออิตะ พร้อมแนะให้ประชาชนกว่า 57,000 คน อพยพเพื่อความปลอดภัยโดยทันที

 

4. ไต้ฝุ่นชบา (Chaba) เกิดขึ้นเมื่อเดือนกรกฎาคม 2022

พายุชบา พายุชื่อไทยแท้ ๆ แต่ไม่ใช่ไทยเป็นคนตั้งชื่อหรอกนะ เพราะจริง ๆ แล้วชื่อนี้ได้ถูกกำหนดไว้โดยกรมอุตุนิยมวิทยาโลก (WMO ย่อมาจาก World Meteorological Organization) โดยจะถูกนำมาใช้เมื่อเกิดพายุหมุนเขตร้อนในบริเวณที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้ ชื่อชบาแสนสวย แต่กลับสร้างโศกนาฎกรรมที่น่าเศร้าเมื่อครั้งที่เรือ Fukui 001 อับปางลงในทะเลจีนใต้เมื่อวันที่ 2 กรกฎาคม 2022 ทำให้มีผู้สูญหายในทะเล 27 คน

สำหรับประเทศที่ได้รับผลกระทบเต็ม ๆ จากพายุไต้ฝุ่นชบาในเวลานั้น คือ มณฑลกวางตุ้ง ประเทศจีน ยาวไปจนถึงฮ่องกงและมาเก๊า โดยกำลังแรงลมพายุเคลื่อนตัวด้วยความเร็วเฉลี่ย 130-140 กม./ชม. ทำให้เกิดฝนตกหนักกระจายเป็นวงกว้างและยังแผ่มาถึงไทย โดยเฉพาะในภาคใต้และภาคอีสาน หากแต่ไม่พบผลกระทบที่ทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันในระดับรุนแรงแต่อย่างใด

 

5. พายุไต้ฝุ่นโมลาเบ (MOLAVE) เกิดขึ้นเมื่อปลายเดือนตุลาคม 2020

พายุไต้ฝุ่นโมลาเบ เป็นพายุที่รุนแรงที่สุดในรอบ 20 ปีของชาวเวียดนาม โดยเฉพาะที่เมืองดานัง ประเทศเวียดนาม ด้วยความเร็วลมสูงสุด 145 กม./ชม. ส่งผลให้เกิดพายุฝนตกหนักและลมกระโชกแรง โดยเจ้าหน้าที่ได้อพยพประชาชนออกจากพื้นที่เสี่ยงกว่า 375,000 คน รวมทั้งปิดสนามบินในพื้นที่อย่างน้อย 5 แห่ง มีการยกเลิกเที่ยวบินกว่า 200 เที่ยวบิน และขอความร่วมมือจากประชาชน งดออกจากบ้านเพื่อความปลอดภัยอย่างไรก็ตาม ไต้ฝุ่นโมลาเบส่งผลกระทบต่อไทยหลังเคลื่อนตัวเข้าสู่ประเทศไทยบริเวณจังหวัดอุบลราชธานี ในขณะที่มีกำลังแรงอยู่ในระดับพายุดีเปรสชัน ส่งผลทำให้มีฝนตกเพิ่มมากขึ้นทางตอนล่างของภาคอีสานในช่วงปลายเดือนตุลาคม

พายุหมุนเขตร้อน แบ่งเกณฑ์ระดับความรุนแรงของพายุตามข้อตกลงระหว่างประเทศ โดยใช้ความเร็วลมใกล้ศูนย์กลางพายุ ดังนี้

1. พายุดีเปรสชั่น ความเร็วลมไม่เกิน 33 นอต (61 กม./ชม.)

2. พายุโซนร้อน ความเร็วลม 34 - 63 นอต (62 - 117 กม./ชม.)

3. ไต้ฝุ่น ความเร็วลม 64 นอตขึ้นไป (118 กม./ชม.ขึ้นไป)

(ข้อมูล : กรมอุตุนิยมวิทยา)

 

อ้างอิง

https://www.thaiwater.net/uploads/contents/current/YearlyReport2020/storm.html

https://www.pptvhd36.com/news/%E0%B8%AA%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B8%84%E0%B8%A1/253021

https://www.thaipbs.or.th/now/content/2941

https://tmd.go.th


บทความที่เกี่ยวข้อง
‘ราคา’ ที่ต้องจ่าย เมื่อถึงวันที่ ‘อวัยวะ’ ใช้งานไม่ได้
  • News
‘ราคา’ ที่ต้องจ่าย เมื่อถึงวันที่ ‘อวัยวะ’ ใช้งานไม่ได้

สุขภาพและความแข็งแรงของร่างกายคนเราก็มักจะเดินสวนทางกับขวบปีของชีวิต ยิ่งอายุมากขึ้น การทำงานของระบบต่าง ๆ ในร่างกายก็เสื่อมสภาพลงไปเรื่อย ๆ จากอดีตที่เคยวิ่งไกลหลายกิโลเมตรก็แทบจะไม่รู้สึกอะไร แต่ปัจจุบันแค่ขึ้นบันไดสองชั้นก็อาจจะเหนื่อยหอบแล้ว

เกษียณมาร์เก็ต : เมื่อคนรุ่นใหญ่มีพื้นที่ให้ปล่อยของ
  • News
เกษียณมาร์เก็ต : เมื่อคนรุ่นใหญ่มีพื้นที่ให้ปล่อยของ

เมื่อพูดถึง ‘ผู้สูงอายุ’ ภาพในความคิดของหลาย ๆ คนคงนึกถึงคนที่เกษียณอายุจากการทำงาน หรือคุณตาคุณยายอยู่กับบ้านเลี้ยงหลาน ชีวิตของคนเหล่านี้ดูเหมือนจะเคลื่อนไหวไปอย่างช้า ๆ และดูเหมือนจะห่างไกลจากความกระตือรือร้นหรือกระฉับกระเฉงที่จะทำสิ่งต่าง ๆ

ERDI-CMU สานต่อ "โครงการพัฒนาผู้ประเมินภายนอกฯ (ระยะที่ 2)" ปั้นคนด้านคาร์บอนฟุตพริ้นท์
  • News
ERDI-CMU สานต่อ "โครงการพัฒนาผู้ประเมินภายนอกฯ (ระยะที่ 2)" ปั้นคนด้านคาร์บอนฟุตพริ้นท์

ERDI-CMU เตรียมจัดอบรม 3 หลักสูตร ปั้นผู้สนใจด้านคาร์บอนฟุตรพริ้นท์ สอดรับเป้าหมายรัฐบาลที่มุ่งมั่นให้ไทยเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) ในปี 2050 และปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero) ภายในปี 2065

เว็บไซต์ใช้คุกกี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งาน  รายละเอียด
logo
  • บทความ
  • วิดีโอ
  • Podcast
  • ติดต่อเรา
Copyright © 2023 CMU. All Rights Reserved. Powered by I GEAR GEEK