ถึงฤดูหนาวทีไร เชียงใหม่มักจะเป็นจังหวัดอันดับต้น ๆ ที่ใคร ๆ ต่างนึกถึงและอยากเดินทางมาพักผ่อน แม้ว่าจะเพิ่งผ่านพ้นเหตุการณ์อุทกภัยครั้งใหญ่ไปเมื่อไม่กี่เดือนมานี้ แต่จากข้อมูลล่าสุดของ Airbnb ระบุว่า นักท่องเที่ยวต่างชาติยังคงให้ความสนใจในการเดินทางไปเชียงใหม่สูงอย่างต่อเนื่อง เพราะจากสถิติการจองที่พักในจังหวัดเชียงใหม่ขยับเพิ่มสูงขึ้นเกือบ 30%โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวญี่ปุ่น พบว่า ทั้งนี้ ยอดจองที่พักในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2567 ได้เติบโตต่อเนื่อง เชียงใหม่เพิ่มขึ้นถึง 97% นักท่องเที่ยวอินเดียเพิ่มขึ้น 47% และนักท่องเที่ยวเกาหลีเพิ่มขึ้น 41%
อมันพรีท บาจาจ ผู้จัดการทั่วไปของ Airbnb ประจำเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อินเดีย ฮ่องกง และไต้หวัน กล่าวว่า “เชียงใหม่ยังคงเป็นเมืองที่ดึงดูดนักเดินทาง Airbnb จากทั่วโลก ด้วยความโดดเด่นของที่พัก Airbnb รวมไปถึงการเติบโตของร้านอาหารที่ได้รับคัดเลือกจากมิชลินไกด์ ก็ช่วยเพิ่มเสน่ห์ให้กับเชียงใหม่ ทำให้เชียงใหม่เป็นจุดหมายปลายทางที่นักเดินทางจากทั่วโลกจะต้องมาเยือน”
นอกจากนี้ ยังมีสถิติที่น่าสนใจในช่วงฤดูกาลท่องเที่ยวของจังหวัดเชียงใหม่ เช่น เทศกาลลอยกระทงและยี่เป็งที่ผ่านมา พบว่า เพิ่มขึ้นเกือบ 30% ซึ่งเเป็นตัวบ่งชี้ว่าเชียงใหม่ยังคงได้รับความนิยมในกลุ่มนักท่องเที่ยว แม้จะเพิ่งผ่านเหตุการณ์น้ำท่วมมาหมาดๆ สอดคล้องถึงการฟื้นตัวที่ดี โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวชาวจีนยังเป็นตลาดอันดับต้น ๆ ของเชียงใหม่ในปี 2567
อย่างไรก็ตาม การท่องเที่ยวในช่วงเทศกาล High Season อย่างช่วงฤดูหนาวและฤดูร้อน มักจะเต็มไปด้วยผู้คนมากมาย ทำให้ราคาห้องพัก ค่าตั๋วเดินทางขยับตัวสูงเป็นเท่าตัว การเปลี่ยนบรรยากาศมาเที่ยวในช่วง Low Season หรือช่วงประมาณเดือนมิถุนายน - ตุลาคม จึงนับเป็นทางเลือกที่น่าสนใจและคุ้มค่าอยู่ไม่น้อย เช่น ไม่ต้องเบียดเสียดกับผู้คนจำนวนมาก ได้ค่าตั๋วเดินทางที่มีราคาถูกลง และที่พักในราคาโปรโมชั่นที่แข่งกันนำเสนอ รวมไปถึงข้อดีอื่น ๆ อีกมากมายที่คุณอาจหาไม่ได้ในช่วง High Season ได้แก่
เป็นเรื่องง่ายขึ้นกเมื่อมีผู้คนน้อยลง ทุกอย่างจะรวดเร็วขึ้น ไม่ว่าจะเป็นบริการร้านอาหาร การเดินทางที่สะดวกสบาย การไปเยือนสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ ดังนั้น เมื่อตัดความพลุกพล่านของฝูงชนออกไป จะช่วยประหยัดเวลาและพลังงาน นั่นหมายความว่าคุณจะทำงานทุกอย่างได้ราบรื่นมากขึ้น
เพราะการเดินทางในช่วง Low Season จะมีนักท่องเที่ยวเบาบาง ทำให้การไปเยือนสถานที่ต่าง ๆ มีโอกาสที่จะได้ปฏิสัมพันธ์และพูดคุยกับผู้คนในท้องถิ่นมากขึ้น ตั้งแต่เจ้าของร้านกาแฟ เจ้าของโฮสเทลหรือที่พักสุดฮิปในท้องถิ่น ตลอดจนได้พบกับเจ้าของร้านแฮนด์เมด ฯลฯ สิ่งเหล่านี้จะทำให้คุณได้สัมผัสกับประสบการณ์ที่แท้จริงของการเดินทาง ซึ่งอาจจะเป็นเรื่องยากหากคุณเดินทางในช่วง High Season
ไม่ว่าจะเป็นที่พัก โปรแกรมทัวร์ และสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ ก็มักจะถูกจองเต็มในช่วงฤดูกาลท่องเที่ยวอยู่เสมอ ซึ่งหมายความว่าคุณอาจต้องจองล่วงหน้านานเป็นปีหรือหลายเดือน และอาจไม่สามารถเปลี่ยนแผนได้ง่ายๆ อย่างไรก็ตาม การเดินทางในช่วง Low Season จะทำให้คุณมีความยืดหยุ่นมากขึ้น เช่น อาจเหลือพื้นที่ว่างบนรถไฟ รถทัวร์ หรือทัวร์เดินเท้า จึงไม่จำเป็นต้องจองอะไรล่วงหน้า รวมไปถึงสามารถตัดสินใจทุกอย่างในนาทีสุดท้ายได้ ขึ้นอยู่กับสิ่งที่คุณรู้สึกอยากทำ
ตามปกติแล้ว ในช่วง High Season ทุกอย่างมักจะมีราคาแพง ไม่ว่าจะเป็นราคาเที่ยวบินที่พุ่งสูงขึ้นในช่วงฤดูท่องเที่ยว เช่น ช่วงคริสต์มาสหรือช่วงปิดเทอมฤดูร้อน แต่การเปลี่ยนแผนมาเดินทางในช่วง Low Season คุณอาจพบส่วนลดมากมายที่น่าสนใจ เช่น ส่วนลดราคาเที่ยวบินช่วงกลางเดือนมกราคมอาจจะได้ราคาที่ถูกกว่าถึง 50% เมื่อเทียบกับการเดินทางในช่วงคริสต์มาสหรือแม้แต่ในช่วงฤดูท่องเที่ยว การบินในวันพุธและพฤหัสบดีก็อาจยังถูกกว่าการเดินทางในช่วงสุดสัปดาห์ แต่ไม่ใช่แค่เที่ยวบินที่ถูกกว่าเท่านั้น คุณอาจพบโรงแรม ทัวร์ และค่าธรรมเนียมแรกเข้าราคาประหยัด ดังนั้น การหลีกเลี่ยงเดินทางในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์และช่วงปิดเทอมอาจช่วยให้คุณประหยัดเงินได้เล็กน้อย หากคุณเป็นคนที่ต้องการท่องเที่ยวแบบอัดแน่นและคุ้มค่ามากที่สุด การท่องเที่ยวในช่วงโลว์ซีซั่นคือคำตอบที่ตอบโจทย์มากที่สุด
วิธีหนึ่งในการลดผลกระทบจากวันหยุดพักผ่อนของคุณ คือการเดินทางในช่วง Low Season เพราะจำนวนนักเดินทางที่น้อยลง นั่นหมายถึงขยะก็น้อยลงไปด้วย อีกทั้งระดับมลพิษทางอากาศก็ลดลง ทั้งหมดนี้ช่วยเพิ่มประสบการณ์ที่แสนพิเศษสำหรับทั้งมนุษย์และสัตว์ป่า รวมไปถึงเศรษฐกิจในท้องถิ่นก็จะได้รับประโยชน์จากนักท่องเที่ยวนอกฤดูกาลเช่นเดียวกัน ผู้ประกอบการจะมีรายได้ในช่วง Low Season การเยี่ยมชมนอกสถานที่คุณกำลังสนับสนุนชุมชนให้เจริญรุ่งเรืองตลอดทั้งปี ทำให้การค้าการท่องเที่ยวมีความยั่งยืนทางการเงินมากขึ้นสำหรับคนในท้องถิ่นเช่นกัน
เรื่อง : วีณา บารมี
ภาพ : Envato
เมื่อความขี้เกียจกลายเป็นโอกาสทางธุรกิจ เพราะความขี้เกียจของคนเรานี่เอง ที่ทำให้เกิดธุรกิจหลากหลายประเภทขึ้นมารองรับความไม่อยากต้องออกแรงให้เหนื่อยของมนุษย์ โดยธุรกิจเหล่านี้อาศัยสิ่งหนึ่งที่เหมือนกันเพื่อทำให้ธุรกิจไปรอดและมั่งคั่ง นั่นคือ ‘ความขี้เกียจ’ โดยธุรกิจเหล่านี้มีชื่อเรียกว่า ‘Lazy Economy’
สันทรายซิสโก พื้นที่แห่งความฝันที่ถูกออกแบบให้เป็นจริงโดย มะเป้ง พงษ์ศิลา อดีตมนุษย์เงินเดือนที่ย้ายชีวิตจากเมืองใหญ่มายังจังหวัดเชียงใหม่ ชายหนุ่มผันตัวเองมาทำร้านกาแฟและคอมมูนิตี้ สนับสนุนคนทำอาหารและส่งเสริมให้ผู้คนหันมาใช้ผลผลิตออแกนิกจากเกษตรกรในชุมชน
ชวนไปอัพเดตเทรนด์ที่มาแรงของธุรกิจโรงแรมและที่พักว่า ในปีหน้าฟ้าใหม่ 2025 โรงแรมแบบไหนที่จะชนะใจแขกผู้เข้าพัก