การส่งเสริมทางด้านศิลปะและวัฒนธรรมของจังหวัดเชียงใหม่มีการดำเนินต่อเนื่องมาอย่างยาวนาน แต่เราจะเห็นได้ชัดว่าการสนับสนุนเหล่านั้น มักจะสนับสนุนโดยองค์กรรัฐที่มุ่งเน้นไปหาผู้ที่ดำเนินงานศิลปะท้องถิ่นล้านนาก่อน อาทิ ดนตรีล้านนา ผ้าฝ้ายล้านนา สถาปัตยกรรมล้านนา เป็นต้น ในขณะเดียวกัน ศิลปะร่วมสมัยในระดับท้องถิ่นส่วนใหญ่จะถูกผลักดันด้วยภาคประชาชนที่เกี่ยวข้อง
ความเชื่อมโยงของดนตรีและผู้คนได้สะท้อนออกมาอย่างชัดเจนผ่านศิลปินท้องถิ่นในพื้นที่ ศิลปินต่างชาติ ค่ายเพลงอินดี้ และเทศกาลดนตรีต่าง ๆ ซึ่งมีบทบาทในการขับเคลื่อน วงการดนตรีในเชียงใหม่ จนกลายเป็นเมืองแห่งดนตรีที่มีเอกลักษณ์โดดเด่นในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
เชียงใหม่ภายใต้เมืองแห่งอุตสาหกรรมดนตรีรูปแบบใหม่ ที่ไม่พึ่งค่ายใหญ่ ไม่พึ่งสื่อใหญ่ ไม่พึ่งเมืองใหญ่ ด้วยเหตุผลว่าเชียงใหม่ห่างไกลจากเมืองหลวง จึงเข้าถึงสิ่งที่กล่าวมาได้ยาก ซึ่งสิ่งเหล่านั้นจำเป็นต่อการเติบโตของศิลปินอย่างมาก Chiangmai Original จึงเป็นคอมมูนิตี้ที่คอยให้ความรู้และผลักดันศิลปินในเชียงใหม่ มีการส่งเสริมจัดหางานให้ศิลปิน การจัดงาน Music festival การโปรโมทเพลง รวมไปถึงการเปิดพื้นที่เพื่อการแสดงสด (Live house)
คุณสุพิชา เทศดรุณ ผู้ก่อตั้ง Chiangmai Original
"เราอยากทำให้ที่ที่เราอยู่ สามารถทำงานที่เรารักได้ โดยไม่ต้องเข้าเมืองและเราก็อยากให้น้องๆศิลปินรุ่นใหม่ทำงาน ที่พวกเขารักและเติบโตอย่างมีคุณภาพเช่นกัน นั่นแหละคือ Chiangmai Original" สุพิชา เทศดรุณ ผู้ก่อตั้ง Chiangmai Original กล่าว
ปัจจุบัน Chiangmai Original มีศิลปินที่เข้าร่วมกว่า 100 วงเช่น คณะสุเทพการบันเทิง, ดารารัญ, H8U Helicoptor Secondhand, THE HALF MOONs, pOd, บอยอิมเมจิ้น และยังมีงาน Event ที่จัดขึ้นเพื่อศิลปินในเชียงใหม่ที่เห็นได้ชัดกว่า 3 งาน ได้แก่ Ho! Festival, Chiangmai Hi Ho และ Chiangmai Busking ทั้งนี้กลุ่ม Chiangmai Original ก็ยังมีโปรเจคอื่น ๆ อีกมากมาย เช่น การเปิดพื้นที่ให้ศิลปิน ในเชียงใหม่และต่างประเทศที่อาศัยอยู่ในเชียงใหม่ได้ไปแสดงผลงานที่ Live house ขนาดย่อมอย่าง Chiangmai OriginaLive การจัดงาน Ho! inter ที่รวมศิลปินจากทั้งไทยและต่างประเทศมาร่วมแสดงดนตรีสดร่วมกัน อันนำไปสู่การร่วมผลงานเพลงของหลากหลายชนชาติในอนาคตอีกด้วย
Chiangmai OriginaLive มีชื่อเรียกแบบย่อว่า CNX OG LIVE ซึ่งเป็นที่รู้จักดีในหมู่ศิลปิน ในจังหวัดเชียงใหม่และพื้นที่ใกล้เคียง รวมไปถึงชาวต่างชาติที่หลงไหลในวัฒนธรรมดนตรี ของเชียงใหม่
ภาพจาก Instragram: CNX.OG.LIVE
CNX OG LIVE เป็น Live House ขนาดเล็กแห่งแรกในเชียงใหม่ที่เกิดจากการสนับสนุนของกลุ่ม Chiangmai Original เพื่อเปิดโอกาสให้ศิลปินที่สร้างสรรค์ผลงานเพลงเอง มีพื้นที่ในการโปรโมทผลงานแสดงศักยภาพ มีพื้นที่เล่นดนตรีสดร่วมกัน รวมไปถึงการรวมตัวพูดคุย แลกเปลี่ยนผลงานตามเอกลักษณ์เฉพาะตัวศิลปิน ทั้งยังเป็นพื้นที่ที่เป็นจุดเชื่อมโยงระหว่างศิลปินกับแฟนคลับให้ได้มาพบปะกันอย่างใกล้ชิดอีกด้วย ภายใน CNX OG LIVE ไม่ได้มีแค่ศิลปินสัญชาติไทยมาแสดงสดแต่เพียงผู้เดียว แต่ยังมีศิลปินต่างชาติที่มาเที่ยวพักผ่อน หรืออาศัยในจังหวัดเชียงใหม่ได้มาจัดงานเล็กๆ ในบรรยากาศกันเองให้คนเชียงใหม่ได้มาเอ็นจอยไปกับพวกเขาด้วย
LABB FEST คือ Music Festival ที่จะมีโปรดิวเซอร์ โปรโมเตอร์และบุคคลสำคัญในวงการดนตรีจากเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มาเป็นแมวมองหาศิลปินที่จะมาทำการแสดงสดภายในงาน เพื่อพัฒนาผลงานต่อในระดับนานาชาติ โดย LABB FEST เป็นโปรเจคของคุณสุเมธ ยอดแก้ว ผู้บริหารค่ายเพลง Minimal Record ที่มีวิสัยทัศมองเห็นศักยภาพของศิลปินอินดี้เชียงใหม่และต่างประเทศ และอยากจะผลักดันให้โลกรับรู้ถึงการมีอยู่ของศิลปินเหล่านั้น
การแสดงสดภายในงานมีทั้งศิลปินมากหน้าหลายตา หลายชาติ โดยศิลปินที่มาร่วมแสดงใน LABB FEST เกือบทั้งหมดก็ได้มีโอกาสพัฒนาผลงานต่อร่วมกับโปรดิวเซอร์ และโปโมเตอร์ ที่เข้าร่วมภายในงาน เผยแพร่ผลงานคุณภาพให้คนทั่วโลกได้ฟัง เช่น วง Common People Like You, L8CHING, THE REASONABILISTS, LAWIN, HOWWHYWHENYOU ศิลปินดังกล่าว ล้วนเป็นศิลปินที่มีผลงานที่โดดเด่น ศิลปินไทยที่มีผลงานที่เป็นที่รู้จักในต่างประเทศก็มี หรือศิลปินต่างประเทศบางกลุ่มอย่าง THE REASONABILISTS และ HOWWHYWHENYOU ที่ได้เซ็นสัญญากับค่ายเพลงในเชียงใหม่อย่าง Minimal record ก็มี นับได้ว่า LABB FEST คือเทศกาลดนตรีที่ผลักดันให้เชียงใหม่เป็นที่รู้จัก ในเรื่องศูนย์รวมคนดนตรีและการผลักดันท้องถิ่นไปสู่ระดับสากลอย่างแท้จริง
วง THE REASONABILISTS ภาพจาก Facebook Fanpage: Minimal Record
วง HOWWHYWHENYOU ภาพจาก Facebook Fanpage: Minimal Record
สุเมธ ยอดแก้ว เจ้าของค่ายเพลง เล่าว่า Minimal Record ตอนแรกตั้งขึ้น คือ เพื่อสนับสนุนศิลปินเชียงใหม่ ตามกำลังที่เขาจะสามารถทำได้ไม่ใช่กับศิลปินทุกคน แต่ศิลปินที่ชื่นชอบที่มองแล้วมีคาแร็กเตอร์ ที่รู้สึกว่าควรเป็นที่รู้จักมากว่านี้ จึงให้การสนับสนุน ศิลปินเหล่านั้น โดยแนวทางในการสนับสนุนศิลปินทั้งไทยและต่างประเทศ ก็ครอบคลุมเรื่องของโซเชียลมีเดีย เครือข่าย หรือคอนเนคชั่นกับโปรโมเตอร์ ซึ่งเป็นการสนับสนุนในฝั่งของการหางานจ้างให้กับศิลปิน ด้านโปรดักชั่นก็มีห้องอัด มีงบประมาณให้ในการผลิตผลงานเพลง รวมไปถึงตัวมิวสิควิดีโอ
แล้วเพิ่มเติมอีกว่า ถ้าติดตาม (โชเชียลมีเดีย) ของเราก็จะเห็น อีพีแรกเป็นเรื่องวงดนตรี ของเราที่มีความ individual (ปัจเจกเอกลักษณ์) สูง ความดิบความซ่าของเพลง หลังจากเมื่อมีคนรู้จักเรามากขึ้น ก็มีการปรับเปลี่ยน เราต้องอยู่รอด ดิบซ่าไม่พอต้องขายได้ด้วย คือเป็นที่รู้จัก และสามารถไปเล่นโชว์ได้ เราก็จะหาวงที่จะขายได้อีกหลายๆ วง หมดอีพีนี้ไปก็พยายามหาวงหน้าใหม่ (New blood) เพิ่ม ให้เข้ากับเทรนด์ดนตรี เป็นเหมือนการรีเซ็ตใหม่
เพลงสากลที่มีเนื้อร้องเป็นภาษาอังกฤษอาจเป็นสิ่งที่ถูกมองว่าเติบโตได้ยากในประเทศไทย โดยเฉพาะกับศิลปินสัญชาติไทย แต่ Minimal Record ไม่ได้คิดแบบนั้น กลับมองว่านี่คือโอกาสใหม่ที่จะส่งเสริมให้ศิลปินในเชียงใหม่ โดยเฉพาะศิลปินในค่ายให้เป็นที่รู้จักมากขึ้น Minimal Record เอง เปิดรับวัฒนธรรมดนตรีใหม่ ๆ จากศิลปินต่างประเทศ เข้ามาอยู่ภายใต้การดูแลของค่าย เช่น THE REASONABILISTS ศิลปินจากประเทศเมียนมาร์ ที่มีผลงานเพลงจัดจ้านสไตล์ Rock และ HOWWHYWHENYOU ศิลปินจากเกาหลีใต้ ที่มีผลงานเพลงสไตล์ POP ใส ๆ ฟังสบาย ๆ ในขณะเดียวกันค่ายเองก็ไม่ได้ลืมที่จะผลักดันศิลปินภายในค่ายท่านอื่นๆ ให้เป็นที่รู้จักในสายตานานาชาติ เช่น LAWIN ที่มีผลงานเพลง Whare Would You Be เวอร์ชั่นภาษาไทย และเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษ อีกทั้งยังส่งศิลปินในค่ายไปแสดงสดที่ต่างประเทศด้วย
เชียงใหม่คือดินแดนที่เปิดรับทุก ‘วัฒนธรรมดนตรี’ อาจเรียกได้ว่าเชียงใหม่ คือ โลกแห่ง คนดนตรีที่รวมศาสตร์แห่งดนตรีทุกแขนงมาไว้ที่นี่ หากคุณอยากฟังดนตรีสากลฟิวชั่นก็มี Live House ที่รวบรวมทั้งศิลปินในไทยและต่างประเทศเอาไว้ด้วยกันในสถานที่เดียว หากคุณอยากเห็นความแปลกใหม่ก็อาจจะได้เห็นการทำงานร่วมกันของศิลปินเชียงใหม่กับศิลปินชาวต่างชาติ เพราะที่นี่คือ “เชียงใหม่” เมืองที่ไม่เคยหยุดพัฒนาวัฒนธรรมดนตรีแบบผสมผสาน เมืองที่ผลิตศิลปินมากด้วยฝีมือ และการพัฒนายังคงดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง ไม่มีจุดสิ้นสุด
เรื่อง : ณฐภาพ นิธิกรธนกร
เรียบเรียง : วิไลวรรณ แซ่เห่อ
พิสูจน์อักษร : รัตติยากร มติอภิวัฒน์, จิตติญาภรณ์ แสงหาญ
ภาพปก : Envato
บทความนี้เป็นผลงานของนักศึกษากลุ่มวิชาวารสารศาสตร์บูรณาการ คณะการสื่อสารมวลชน มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
“หมุดหลักนี้ แสดงถึงเจตจำนงที่จะพิทักษ์ปกป้องผืนป่าแห่งนี้ไว้ มิให้ผู้ใดทำลาย และเพื่อแสดงถึงจิตวิญญาณ อัตลักษณ์ของชนเผ่า คงไว้ซึ่งวิถีชีวิตและทรัพยากรธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์สืบไป” ข้อความสีแดงปรากฏบนหมุดหลักหนึ่งท่ามกลางต้นไม้ใหญ่ที่ถูกผูกด้วยผ้าสีส้ม เพื่อแสดงถึงเจตจำนงในการรักษาพื้นที่ป่า 39 ไร่ 54 ตารางวา อันเต็มไปด้วย ‘จิตวิญญาณ’ ของกลุ่มชาติพันธุ์กะเหรี่ยงโปว์ ที่ได้เชื่อมโยงวิถีชีวิตของพวกเขาให้เข้ากับธรรมชาติ โดยผูกโยงศาสนา และความเชื่อดั้งเดิมเอาไว้ในผืนป่าแห่งนี้
เพราะเรื่องปากท้องเป็นเรื่องสำคัญ ชาวกะเบอะดินจึงต้องทำการเกษตรเพื่อเลี้ยงชีพ “เพราะการเกษตร อยู่กับชาวกะเบอะดินตั้งแต่เกิดยันตาย” ‘ชุมชนกะเบอะดิน’ หมู่บ้านของชาวกะเหรี่ยงโปว์บนยอดดอยสูงในอำเภออมก๋อย จังหวัดเชียงใหม่ พื้นที่ที่ประชากรทุกหลังคาเรือนปลูกพืชเป็นอาชีพหลัก เนื่องจากบริบททางสังคมและพื้นที่ของชุมชน ทำให้ ‘เนื้อสัตว์’ เป็นสิ่งที่หาได้ยากและราคาแพง
“สิ่งที่เราไม่อยากให้หายไปจากอมก๋อยก็คือธรรมชาติและวัฒนธรรมของเรา เราควรรักษาสืบต่อให้ลูกหลานต่อไป” ดวงแก้ว – พรชิตา ฟ้าประทานไพร เยาวชนหมู่บ้านกะเบอะดิน กล่าวด้วยน้ำเสียงหนักแน่น