บนโลกนี้ไม่ใช่แค่เครื่องมือทางวิทยาศาสตร์หรือมนุษย์เท่านั้นที่จะพยากรณ์อากาศได้ แต่บางครั้งหากเราลองสังเกตสิ่งรอบตัว อาจมองเห็นสัญญาณเตือนจากแมลง สัตว์ และธรรมชาติที่กำลังบอกให้เรารู้ว่า ฝนกำลังจะตก พายุกำลังจะมา
สำนักข่าวอ่างแก้วรวบรวมสัญญาณเตือนจากธรรมชาติที่คุณควรรู้ เพราะธรรมชาติไม่เคยโกหก ไม่ค่อยพลาดและทำนายได้อย่างแม่นยำมากกว่าเครื่องมือใดใด
ในพื้นที่ต่างจังหวัดหรือเป็นพื้นที่ที่ธรรมชาติยังคงมีความอุดมสมบูรณ์ คุณอาจสังเกตเห็นฝูงแมลงปอจำนวนมากที่พากันบินให้ว่อนเหนือพื้นดิน สาเหตุที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะความร้อนอบอ้าวจากพื้นดินที่ระเหยขึ้นมาจนก่อให้เกิดความกดอากาศต่ำและตามมาด้วยปรากฏการณ์ฝนตก ซึ่งหากใกล้เวลาที่ฝนจะตกมากเท่าไร อาจสังเกตได้ว่า ฝูงแมลงปอจะยิ่งบินต่ำลงเรื่อยๆ เนื่องด้วยมวลความชื้นในอากาศที่ทำให้ปีกบางๆ ของพวกมันหนักขึ้น
หากเห็นฝูงมดกำลังช่วยกันแบกอาหารเดินเรียงแถวไต่กันมาตามขอบกำแพงหรือพื้นทางเดินหรือบนต้นไม้ นั่นเป็นสัญญานว่าฝนกำลังจะตก หรือพายุกำลังจะพัดผ่านมาในอีกไม่ช้า เหตุผลก็คือมดสามารถสัมผัสความชื้นที่กำลังเปลี่ยนแปลงได้ พวกมันจึงเตรียมหนีฝนโดยการก่อเนินดินตรงทางเข้ารังให้สูงชันหรือแข็งแรงมากยิ่งขึ้นเพื่อป้องกันน้ำท่วม และบางครั้งก็ถึงขั้นขนไข่ย้ายรังขึ้นที่สูงกันเลยทีเดียว
ไมใช่แค่สัตว์ตัวเล็กที่มีสัญชาตญานรู้ว่าฝนกำลังจะตกเท่านั้น แต่สัตว์ตัวโตอย่างวัวก็จะแสดงท่าทีกระสับกระส่ายและบางครั้งอาจล้มตัวลงนอนราบบนพื้นหญ้าแห้งๆ กันเป็นหมู่คณะอีกด้วย ซึ่งหากเห็นฝูงวัวมีอาการแบบที่ว่านี้แล้ว ก็สันนิษฐานได้เลยว่า กำลังจะเกิดพายุหรือสภาพอากาศที่เลวร้ายในอนาคตอันใกล้ เพราะพวกวัวสามารถรับรู้ถึงมวลความชื้นในบรรยากาศที่กำลังเดินทางมาถึง ซึ่งถือเป็นภาวะอากาศที่ส่งผลต่อพฤติกรรมของสัตว์อีกหลายชนิดได้เร็วกว่ามนุษย์
ปกติแล้วหิ่งห้อยจะบินในระดับต่ำหรือในระดับสายตาที่เราสามารถมองเห็นได้ แต่เมื่อฝนใกล้จะตก ความกดอากาศต่ำลง อากาศจะยกตัวสูงขึ้น เพราะฉะนั้นแมลงจะบินสูงขึ้นตามอากาศที่ลอยขึ้นจากพื้นดิน แต่ถ้าอากาศเย็น ความกดอากาศสูงแมลงจะบินใกล้ๆ พื้นดิน เพราะไม่สามารถบินผ่านอากาศที่อยู่รอบตัวขึ้นไปได้
นกสามารถรับรู้เสียงความถี่ต่ำ (infrasound) ที่มนุษย์ไม่ได้ยิน ซึ่งเกิดจากพายุใหญ่ หรืออาจรับรู้ถึงการเปลี่ยนแปลงของแรงดันอากาศที่ทำให้พวกมันต้องบินอพยพออกจากพื้นที่ก่อนพายุจะมา
เคยไหมที่คุณเห็นฝูงผึ้งจำนวนมากในรวงผึ้งบนต้นไม้ แต่จู่ๆ พวกมันก็ทิ้งรังแล้วหายไปจนหมด เหลือแต่รังผึ้งเปล่าๆ ใต้ต้นไม้ที่ไม่มีผึ้งอยู่เลยสักตัว นั่นเป็นเพราะว่าฝูงผึ้งรู้ว่ากำลังจะมีฝนตกและพายุ พวกมันจึงทำการ "ย้ายรัง" เพื่อหนีฝนและมองหาที่หลบฝนใหม่ นอกเหนือจากพวกมันจะหนีฝนแล้ว บางครั้งก็ย้ายรังเมื่ออาหารขาดแคลนอีกด้วย
อย่างไรก็ตาม สัตว์นักพยากรณ์เหล่านี้มีการตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศและสิ่งแวดล้อมเพื่อความอยู่รอด และหากมนุษย์อย่างเรารู้จักสังเกตพฤติกรรมของสัตว์ ก็จะช่วยให้เราสามารถเตรียมพร้อมรับมือกับพายุฝนได้อย่างทันท่วงที
อ้างอิง
ว่ากันว่าหนึ่งในวิธีการขอบคุณตัวเองที่ดีสุด คือการลงทุนกับตัวเอง ซึ่งไม่ได้มีเพียงการเสาะแสวงหาความรู้เพื่อลับตนให้คมอยู่เสมอเท่านั้น การลงทุนกับสุขภาพร่างกายและความงามซึ่งเป็นภาชนะห่อหุ้มจิตวิญญาณของเราในทุก ๆ วัน ก็เป็นการขอบคุณและเสริมสร้างความมั่นใจที่มีแต่ได้กับได้เช่นกัน
บันทึกแห่งตำนาน เรื่องราวเล่าขานของมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ หลังอายุครบ 6 ทศวรรษ
น้ำท่วมสูงเมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา นับเป็นอุทกภัยครั้งใหญ่สำหรับชาวจังหวัดน่าน แต่บางพื้นที่ที่ไม่เคยท่วมสาหัสแบบนี้มาก่อน