• logo
  • หน้าแรก
  • เกี่ยวกับเรา
  • บทความ
      News
      Art & Design
      Business
      Wellness
      Culture
      Insights
      Research
      Go Green
      Leisure
  • วิดีโอ
      Education
  • Podcast
      Wealth
      Environment
      Psychology
      Tecnology
logo
  • หน้าแรก
  • เกี่ยวกับเรา
  • บทความ
    • News
    • Art & Design
    • Business
    • Wellness
    • Culture
    • Insights
    • Research
    • Go Green
    • Leisure
  • วิดีโอ
    • Education
  • Podcast
    • Wealth
    • Environment
    • Psychology
    • Tecnology
ดีดบ้านให้สูง ทางเลือกหนีน้ำท่วมบ้านได้จริงไหม ?
Insights
17
วันเผยแพร่: Jun 10,2025
อัปเดตล่าสุด: Aug 16,2025
ดีดบ้านให้สูง ทางเลือกหนีน้ำท่วมบ้านได้จริงไหม ?

สำหรับผู้ที่เพิ่งซื้อบ้านใหม่หรือแม้กระทั่งผู้ที่อยู่บ้านหลังเดิมมายาวนาน การย้ายบ้านอาจเป็นเรื่องยาก ทั้งด้านทุนทรัพย์และความผูกพันทางใจในบ้านหลังเก่า ทำให้คนส่วนใหญ่เลือกที่จะอยู่บ้านหลังเดิมต่อไปแม้เสี่ยงที่จะเกิดน้ำท่วมซ้ำ

 

การมองหาโซลูชั่นป้องกันน้ำท่วมจึงเป็นทางออกสำหรับผู้ไม่คิดย้ายบ้าน และหนึ่งในนั้นคือ “การยกบ้านให้สูง” หรือ "การดีดบ้าน" ซึ่งเป็นทางเลือกที่เป็นไปได้ และเราอยากนำเสนอเผื่อเป็นไอเดียสำหรับผู้สนใจและมีงบประมาณที่จ่ายไหว

บ้านใต้ถุนสูง บ้านยุคเก่า ที่ปลอดภัยจากน้ำ

สำนักข่าวอ่างแก้วได้มีโอกาสสัมภาษณ์ เรือโท ดร.ชนะ สินทรัพย์วโรดม อาจารย์ประจำคณะวิศวกรรมศาสตร์ ภาควิชาโยธา มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ถึงเรื่องการยกบ้านให้สูงเพื่อหนีน้ำท่วมในเมืองไทยนั้น สามารถทำได้ไหมและมีเงื่อนไขใดบ้างที่ควรพิจารณา

 

โดย อ.ชนะ เล่าถึงที่มาของบ้านในอดีตไว้ว่า ทำไมคนสมัยก่อนนิยมสร้างบ้านใต้ถุนสูง “เหตุผลหลักมาจากลักษณะทางภูมิประเทศและสภาพแวดล้อม โดยเฉพาะพื้นที่ที่มีแม่น้ำไหลผ่าน เช่น ในพื้นที่เวียงกุมกาม ซึ่งเคยมีลำน้ำสายสำคัญไหลผ่านกลางเมือง และเป็นพื้นที่ที่มีประวัติน้ำท่วมอยู่เนืองๆ ทำให้บ้านในพื้นที่เหล่านี้จึงถูกออกแบบให้มีใต้ถุนยกสูงหรือโดยเฉลี่ยประมาณ 2-3 เมตร เพื่อป้องกันน้ำท่วม” อ.ชนะ อธิบายถึงลักษณะบ้านในอดีต ที่ถูกออกแบบให้สอดคล้องกับลักษณะทางธรณีวิทยาในแต่ละภูมิภาค ก่อนจะกล่าวเพิ่มเติมว่า

                   เรือโท ดร.ชนะ สินทรัพย์วโรดม อาจารย์คณะวิศวกรรมศาสตร์  มหาวิทยาลัยเชียงใหม่

 

“นอกเหนือจากประโยชน์ในการรับมือกับน้ำท่วมแล้ว ชั้นใต้ถุนบ้านยังสามารถทำเป็นพื้นที่อเนกประสงค์ เช่น ใช้เก็บของ เป็นที่นั่งพักผ่อน รับแขก หรือเป็นที่จอดรถ ซึ่งพอเวลาผ่านไป ไม่มีน้ำท่วมเกิดขึ้นนาน ๆ คนก็เริ่มปรับพื้นที่ใต้ถุนให้เป็นห้องอยู่อาศัย ซึ่งจะมีลักษณะคล้าย ๆ กับรูปแบบบ้านสไตล์โมเดิร์นในปัจจุบัน”

 

บ้านโมเดิร์นกับความเปลี่ยนแปลงในวิธีคิด

อ.ชนะ เล่าต่อว่า เมื่อยุคสมัยเปลี่ยนไป บ้านสมัยใหม่เข้ามาแทนที่บ้านใต้ถุนสูง โดยเน้นรูปแบบที่มีความเป็นตะวันตกมากขึ้น เช่น การวางตัวบ้านชั้นล่างบนพื้นดินโดยตรง โครงสร้างบ้านส่วนใหญ่นิยมใช้คอนกรีตเสริมเหล็ก ซึ่งมีความแข็งแรงและถาวรกว่า การดัดแปลงหรือปรับปรุงจึงทำได้ยากกว่าบ้านไม้

“บ้านคอนกรีตมักจะมีน้ำหนักมากกว่าบ้านไม้ ทำให้การยกบ้านทำได้ยากกว่าและมีค่าใช้จ่ายสูง” นอกจากนี้ ความยากของการยกบ้านนั้น อ.ชนะอธิบายว่า จะต้องยกฐานขึ้นพร้อม ๆ กันทุกด้าน ไม่สามารถยกฐานใดฐานหนึ่งได้ เพราะจะทำให้เกิดแรงดันในโครงสร้าง ทำให้โครงสร้างแตกร้าวและเสียหาย

 

อย่างไรก็ตาม การยกบ้านให้สูงเพื่อหนีน้ำท่วมนั้น จึงนิยมใช้กับโบราณสถาน ซึ่งการเคลื่อนย้ายไปตั้งที่อื่นเป็นเรื่องยาก เช่น วัด โรงเรียน ฯลฯ ในขณะที่การย้ายบ้านพักอาศัยนั้น อาจทำได้ง่ายกว่า  

 

ยกบ้านให้สูง ทางเลือกที่เป็นไปได้กับสิ่งที่ต้องคำนึง

“สำหรับคนที่ตัดสินใจจะยกบ้านให้สูง สิ่งแรกที่ต้องพิจารณาคือ ระดับน้ำในอดีตหรือพื้นที่นั้นเคยมีน้ำท่วมสูงสุดเท่าไหร่เพื่อกำหนดระดับความสูงที่ควรยกบ้านขึ้น โดยทั่วไป ควรเผื่อระดับความสูงอย่างน้อย 30-60 เซนติเมตรจากระดับน้ำท่วมสูงสุดเดิม เพื่อความปลอดภัยในอนาคต

 

“สอง ต้องประเมินงบประมาณว่าจะคุ้มค่ากว่าการขายบ้านและย้ายที่อยู่ใหม่หรือไม่ เพราะการยกบ้านไม่เหมือนการสร้างใหม่ ต้องใช้ทีมวิศวกรผู้เชี่ยวชาญ ต้องทำการยกตัวบ้านพร้อมกันทุกด้านเพื่อไม่ให้โครงสร้างเสียหาย สุดท้ายคือ การยกบ้านคอนกรีตต้องพิจารณาจากน้ำหนักของตัวบ้าน รวมไปถึงฐานรากเดิม และการเสริมฐานรากใหม่ เช่น การเสริมด้วยตอม่อหรือเปลี่ยนเสา”

 

ทั้งนี้ ค่าใช้จ่ายในการยกบ้านในปัจจุบันเริ่มตั้งแต่ 200,000 ไปจนถึง 1,000,000 บาทหรือมากกว่านั้น ซึ่งค่าใช้จ่ายในการยกบ้าน อาจสูงถึงครึ่งหนึ่งของการปลูกบ้านใหม่เลยทีเดียว

"ฐานราก" คือเบื้องหลังความมั่นคงของบ้าน

นอกจากนี้ ในแง่ของโครงสร้าง สิ่งปลูกสร้างทุกหลังจะมีฐานราก และการยกบ้านั้นนเกี่ยวข้องกับ "ฐานราก" โดยตรง อ.ชนะ อธิบายให้ฟังว่า “ฐานรากแบ่งออกเป็นสองแบบ ฐานรากตื้น มักใช้กับโครงสร้างบนพื้นที่ที่มีดินแข็ง เช่น จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งปกติจะมีการขุดดินลึกเพียง 1-2 เมตรแล้วเทฐานรากเลย ซึ่งฐานรากตื้นมักจะเหมาะกับบ้านที่มีน้ำหนักเบาหรือจำนวนชั้นไม่มาก ส่วน ฐานรากลึก มักใช้กับพื้นที่ที่มีดินอ่อน เช่น ในกรุงเทพฯ และสิ่งปลูกสร้างที่มีขนาดใหญ่ เช่น โรงพยาบาล ซึ่งต้องตอกเสาเข็มลงไปให้ลึกเพื่อให้รับน้ำหนักได้มากขึ้นและไม่ทรุดตัวง่าย” อ.ชนะ อธิบาย

 

“หากเป็นบ้านที่จะมีฐานรากตื้น การยกบ้านหรือการปรับเปลี่ยนโครงสร้างอาจทำได้ง่ายและประหยัดกว่าบ้านที่อยู่บนฐานรากลึก” แล้วบ้านยกสูง มีความเสี่ยงอะไรบ้างไหม ? อาจารย์ตอบว่า “บ้านที่ยกสูงมาก ๆ นั้น ก็อาจจะเสี่ยงกับเรื่องแผ่นดินไหว ส่วนการถมดินชั้น 1 ในบ้านที่บางคนเลือกใช้ ไม่ค่อยแนะนำเพราะตามปกติแล้วแรงดันดินจะมากกว่าแรงดันน้ำประมาณ 2 – 2.5 เท่า อธิบายง่าย ๆ เหมือนกับเราไปสร้างบ้านอยู่ในน้ำ แล้วมีแรงดันจากภายนอกดันเข้ามา อาจทำให้กระจกแตก กำแพงร้าว อาจจะทำให้ทรุดตัวได้ง่าย เพราะฉะนั้น หากจะถมดิน แนะนำให้ถมที่ก่อนจะก่อสร้างมากกว่า” อ.ชนะ แนะ

 

อย่างไรก็ตาม การยกบ้านเป็นเรื่องของความปลอดภัย จึงจำเป็นต้องมีวิศวกรผู้ดูแล และต้องมีความเชี่ยวชาญตามระดับการดีดบ้านหรือปรับปรุงโครงสร้างอาคารเพราะเป็นงานเฉพาะทางที่ต้องมีวิศวกรควบคุมงานอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะวิศวกรระดับ “สามัญ” หรือ “วุฒิวิศวกร” ที่มีประสบการณ์และมีสิทธิเซ็นรับรองในงานซ่อมและปรับปรุงอาคารขนาดใหญ่ได้ 

 

เรื่อง : สำนักข่าวอ่างแก้ว

ภาพประกอบ : Envato 

 

 


บทความที่เกี่ยวข้อง
บัณฑิตสร้างงานหรือสังคมสร้างกรอบ ?
  • Insights
บัณฑิตสร้างงานหรือสังคมสร้างกรอบ ?

เมื่อตลาดแรงงานไม่ให้โอกาสเด็กจบใหม่ เพียงเพราะต้องการคนที่มีประสบการณ์ แล้วจะรู้ได้อย่างไรว่าเด็กจบใหม่ไม่มีประสบการณ์ ?

6 รอยเลื่อนสำคัญของโลก ที่มีศักยภาพรุนแรงเมื่อเกิดแผ่นดินไหว
  • Insights
6 รอยเลื่อนสำคัญของโลก ที่มีศักยภาพรุนแรงเมื่อเกิดแผ่นดินไหว

นอกจากรอยเลื่อนสะกายในเมียนมา ซึ่งนับเป็นรอยเลื่อนที่มีความเสี่ยงสูงและศักยภาพรุนแรงหากเกิดเหตุแผ่นดินไหว ยังมีอีก 6 รอยเลื่อนแห่งประวัติศาสตร์ ที่ถูกบันทึกว่าเป็นภัยพิบัติครั้งใหญ่ของโลก

เชียงใหม่กลิ่นกาแฟ
  • Insights
เชียงใหม่กลิ่นกาแฟ

คนไทยเป็นชาติที่ดื่มกาแฟดุหรือเฉลี่ยคนละ 1.5 แก้วต่อวัน ธุรกิจร้านกาแฟจึงผุดขึ้นทั่วเมืองโดยเฉพาะในเชียงใหม่ ที่เป็นแหล่งปลูกกาแฟขึ้นชื่อของประเทศ

เว็บไซต์ใช้คุกกี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งาน  รายละเอียด
logo
  • บทความ
  • วิดีโอ
  • Podcast
  • ติดต่อเรา
Copyright © 2023 CMU. All Rights Reserved. Powered by I GEAR GEEK